จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ประวัติศาสตร์ศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่น
The Spirit of Budo: The History of Japan's Martial Arts
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 10 - 30 สิงหาคม 2555
(พิธีเปิดวันที่ 9 สิงหาคม 2555 เวลา 16.00 น)
เวลาแสดงงาน: 09.00 น. - 16.00 น.
(ปิดวันจันทร์และวันอังคาร)
(ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ซุปเปอร์ไฮเวย์ อ.เมือง
จ.เชียงใหม่ 50300 โทร 053-221-308
เข้าชมฟรี
พร้อมรับฟังการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "อาวุธ สงคราม และสังคม"
โดย รศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ และคณะกรรมการบริหารศูนย์ญี่ปุ่นศึกษา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ตวิญญาณแห่งการต่อสู้ - สำรวจประวัติศาสตร์ศิลปะการต่อสู้ของญีปุ่น ตั้งแต่ในสนามรบ จนถึงเทคนิคในกีฬาการต่อสู้นานาชาติ
นิทรรศการส่วนแรกแสดงชิ้นงานที่ทำขึ้นใหม่ของอาวุธในประวัติศาสตร์ โดยหลักจะเป็นการจัดแสดงอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เช่น ดาบ ธนูและลูกธนู ชุดเกราะและหมวกเกราะ อาวุธจริงซึ่งเป็นต้นแบบของชิ้นงานเหล่านี้เก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์และปราสาท แต่ชิ้นงานที่จัดแสดงเหล่านี้สร้างจำลองโดยช่างผู้เชี่ยวชาญโดยใช้เทคนิคแบบโบราณ นักรบในอดีตนั้นฝึกฝนร่างกายอย่างเข้มงวดเพื่อการเติบโตและการเข้าถึงทางจิตวิญญาณจึงสร้างสรรค์ให้เกิดศิลปะนานาแขนง เช่น บทกวี จิตรกรรม และประติมากรรม
มีหมวกเกราะที่ออกแบบอย่างงดงามอยู่ 8 ชิ้นในนิทรรศการนี้ที่มาจากยุคสงครามเซงโกคุ (ค.ศ. 1467-1568) ยุคที่เต็มไปด้วยการรบพุ่งกันทั้งประเทศ หมวกเกราะเหล่านี้แสดงให้เห็นความงดงามโดดเด่นในสมัยที่ถูกสร้างขึ้น และแม้ว่าจะออกแบบมาอย่างหรูหรา แต่ขุนพลเลื่องชื่อ เช่น นากามาสะ คุโรดะ (ค.ศ. 1568 – 1623) และ ยูคิมูระ ซานาดะ (ค.ศ. 1567 – 1615) สวมหมวกเกราะเหล่านี้ในสนามรบจริง เพราะความโดดเด่นมีเอกลักษณ์นี้ สื่อให้เห็นถึงความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นตั้งใจของนักรบที่ได้รับจากการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้
ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ มีอยู่สองครั้งที่ศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นเกือบจะสูญหายไป ครั้งแรกคือปลายยุคศักดินาต่อยุคสมัยใหม่ ในยุคเมจิ (กลางศตวรรษที่ 19) และอีกครั้งคือระหว่างการให้ศึกษาประชาธิปไตยช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป บุจุทซึ (วิถีแห่งการต่อสู้) ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบโดยนักการศึกษาและผู้ฝึกปฏิบัติจนกลายเป็น บุโด (วิถีแห่งความกล้า) ซึ่งการฝึกฝนร่างกาย มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับจิตวิญญาณและการควบคุมตนเป็นหลัก
ส่วนที่สองของนิทรรศการนั้นเกี่ยวกับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ในปัจจุบัน เมื่อไม่อยู่ในสนามรบ ทั้งอุปกรณ์และชุดก็ปรับเปลี่ยนโดยมีจุดประสงค์เพื่อลดการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม เรานำเอาดาบไม้ไผ่ เสื้อเกราะ ถุงมือ และกางเกงฮากามะ มาจัดแสดงควบคู่กับบอร์ดคำอธิบาย และดีวีดีเกี่ยวกับการฝึกซ้อมโดยนิปปอน บุโดกังด้วย